สัมผัสแรกศาลาหลังเล็กเก่าๆ กับเรื่องราวที่หลากหลาย ณ.บ้านทุ่งจูด หมู่ที่ ๑ ต.หนองเส บ้านทุ่งจูด ชื่อนี้ น่าจะมาจากการที่คนเก่าคนแก่ใช้เรียกชื่อถิ่นตามลักษณะของธรรมชาติที่เป็นจริงในตอนนั้นคือต้นจูด ลักษณะพื้นที่เป็นที่แหล่งน้ำขนาดใหญ่มีเกาะแก่งและที่ราบลุ่มสลับกับลูกควนต่ำๆ เชื่อมต่อกับสองอำเภอ สองตำบล คือตำบลนากะชะ อ.ฉวาง กับ ต.หนองเส อ.ถ้ำพรรณรา หมู่บ้านนี้มีบ้านเรือนประมาณ ๘๐ ครัวเรือน และผู้คนประมาณ ๓๐๐คน โดยมีเนื้อที่ประมาณ ๘๐๐ ไร่ เช่นเดียวกับพื้นที่ทั่วไปในเขตนี้คือ ประชากรในชุมชน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการทำสวนยาง ทำไร่ และเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปลา เป็นต้น นอกจากนี้จะมีกิจกรรมการตกปลาตามแหล่งน้ำ อันเป็นไปเพื่อการจำหน่ายหรือเพื่อใช้เป็นอาหารหรือแหล่งรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย โดยมีท่านผู้ใหญ่สมศักดิ์ หนูทองอินทร์ เป็นผู้นำชุมชุน ถือว่าบ้านทุ่งจูดแห่งนี้เป็นทั้ง หัวใจ ร่างกายและวิญญาณของคนในพื้นที่ชุมชนคลองเสนี้กันเลยที่เดียว เพราะเกือบจะทุกอย่างล้วนเกิดมาจากที่นี่ตรงนี้ วางแผน ปรึกษา โต้แย้ง แสดงความคิดเห็น ตลอดจนกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นภายในชุมชุนนี้ เราจะเห็นป้ายประกาศ รณรงค์มากมายอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นแหล่งศูนย์รวมรู้ของแผนงานสุขภาพชุมชนด้วย เช่น
โครงการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ ทำมาก่อนหน้านี้แล้วเป็นยุคนำร่องแรกเริ่มของการดำเนินงาน ชาวบ้านได้ทำมาก่อนแล้ว ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จที่เกิดก่อนโครงการ โครงการชุมชนแค่เข้าไปจัดการให้เป็นระบบ เพื่อให้มีแบบแผน มีกิจกรรมรองรับเท่านั้น ทำให้มีการต่อยอดไปถึงการรณรงค์การบริโภคพืชผักปลอดสารพิษ การทำอาหารเมนูสุขภาพอย่างเป็นระบบมากขึ้น สังเกตได้ว่าชุมชนได้นำ สิ่งที่มี สิ่งที่เห็น หรือสิ่งที่เป็น อยู่แล้วมาเป็นจุดของการเริ่มต้นหลักในการทำ แล้วค่อยๆขยายต่อไปยังส่วนอื่นๆที่ซับซ้อนขึ้น เริ่มง่ายๆแต่ได้ผล
โครงการสายใยวัฒนธรรมไทย สายใยชุมชน แนวคิดแบบพิพิธภัณฑ์ คือการที่จะรวบรวมเอาภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนและภูมิปัญญาของชุมชน ในปัจจุบันมารวมร้อยไว้ด้วยกัน เรียกสิ่งนี้ว่า ทุนทางภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งอาจแบ่งแยกตามลักษณะของการจัดการของ ต.หนองเส ได้ ๒ แบบ ภูมิปัญญาทางวัตถุ เช่นเครื่องมือโบราณต่างๆจอบ พร้า คันไถ หรือครกตำข้าว และ ภูมิปัญญาทางความคิด เช่นการร่วมมือ เสนอแนะ โต้แย้ง สอดแทรก หลักความเชื่อ โชคลาง พิธีกรรมต่างๆ อันก่อให้เกิดความควบแน่นทางชุมชน นอกจากนี้การนำเอาภูมิปัญญาทั้งเก่าใหม่มารวมร้อยไว้ด้วยกัน ก็ก่อให้เกิดการวิวัฒน์เครื่องมือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆต่างๆขึ้นมาเพื่อสะดวกแก่การใช้งาน เช่น การนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้กับเครื่องตำข้าว เป็นต้น หลักการคิดดังกล่าวนี้อาจจะถูกเผยแพร่และดัดแปลงไปสู่สิ่งประดิษฐ์คิดค้นอื่นๆอีกตามมา อาจจะเป็นตัวชุมชนเองหรือจากบุคคลอื่นๆที่เข้ามาเรียนรู้ศึกษาชุมชน ถือเป็นความเกี่ยวข้องต่อเนื่อง รวบรวม เซาะซึมไปสู่ยังบุคคลรุ่นใหม่ของชุมชนหนองเสเอง เพราะทุกคนก็จะมารวมกันอยู่ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร
โครงการลดเลี่ยงลดโรค นี่คือผลจากการทำในสิ่งที่มี สิ่งที่เห็น หรือสิ่งที่เป็น จากโครงการที่หนึ่งคือ โครงการผักสวนครัวรั้วกินได้ เป็นผลพลอยได้ที่ชุมชนได้รับจึงทำให้ชุมชนตระหนักถึงเรื่องสุขภาพอนามัยจึงเป็นที่มาของความร่วมมือที่ชัดเจน เข้าใจ จนได้รับรางวัลจากทางอำเภอในการดูแลเอาใจใส่สุขภาพของคนในชุมชน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในเมื่อศาลาแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นสถานที่ที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม เป็นศูนย์รวมความคิด ทุกเพศ ทุกกลุ่ม ทุกวัย ดังนั้นเมื่อผู้นำดี แนวคิดดี ทำสิ่งที่มีอยู่ก่อนแล้วในชุมชน โดยเน้นไปที่สุขภาพของคนในชุมชน ทุกคนก็พร้อมที่จะร่วมมือ คนในชุมชนก็พร้อมที่จะนำพาไปปฏิบัติและเมื่อปฏิบัติแล้วเห็นผลจึงเป็นการง่ายที่จะเชื่อมต่อไปยังเป้าหมายอื่นกิจกรรมอื่นๆที่ใหญ่กว่า
การเลี้ยงปลากระชัง โดยลักษณะของพื้นที่อันเป็นแหล่งน้ำที่สมบูรณ์การเลี้ยงปลาจึงถือเป็นการเลี้ยงเพื่อที่ชุมชนจะได้บริโภคโปรตีนจากเนื้อปลาในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ถือเป็นการลดค่าใช้จ่ายในภาคครัวเรือนได้อีกทางหนึ่งด้วย อีกทั้งเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบเพื่อป้อนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรที่ทำปลาดุกร้าคลองเสอีกทางหนึ่ง โดยปลาที่เลี้ยงไว้ก็เช่นปลาดุก ปลาทับทิม ปลานิล ปลาสวาย เป็นต้น นอกจากนี้ในภาคบริหารจัดการ ก็คงไว้ซึ่งความพอดีในการเลี้ยงที่ไม่มากมาย จนก่อให้เกิดปัญหาด้านมลพิษทางน้ำ คงไว้ซึ่งหลักการของความไม่เบียดเบียนธรรมชาติที่เป็นอยู่