โครงการความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาความยากจน การพัฒนาสังคมและสุขภาวะ จังหวัดนครศรีธรรมราช ระยะที่ 2 เป็นความร่วมมือระหว่างจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน และภาคีการพัฒนาในจังหวัด เพื่อสานต่องานพัฒนาจากโครงการความร่วมมือฯ ระยะที่ 2 มีเป้าหมายสนับสนุนให้มีการนำแผนแม่บทชุมชนระดับหมู่บ้าน ตำบล และประเด็นยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ ด้วยความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ บนฐานข้อมูลความรู้ พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศครัวเรือน หมู่บ้าน ชุมชน ตำบล เพื่อสนับสนุนงานพัฒนาในระดับพื้นที่ 60 ตำบล และพัฒนากลไกความร่วมมือให้มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น ระหว่างภาคประชาชน ราชการส่วนท้องถิ่น/ท้องที่ นักวิชาการ ภาคธุรกิจเอกชน เกิดการบูรณาการ งานพัฒนาที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างมีประสิทธิภาพ
เป้าประสงค์
1. นำแผนแม่บทชุมชนระดับหมู่บ้าน/ตำบล ไปสู่การปฏิบัติ ด้วยความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ
2. พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศครัวเรือน หมู่บ้าน ชุมชน ตำบล เพื่อสนับสนุนงาน
3. พัฒนากลไกความร่วมมือให้มีความ สัมพันธ์ที่แนบแน่นกับภาคีภาคประชาชน ราชการส่วนท้องถิ่น / ท้องที่ ราชการนักวิชา กาภาคธุรกิจเอกชน
1. การสร้างรูปธรรมจากแผนแม่บทชุมชน
- จัดเวทีตรวจสอบคุณภาพแผนแม่บทชุมชนระดับตำบล
- ปฏิบัติการให้เกิดกิจกรรมระดับตำบล
2. ยกระดับแผนแม่บทระดับตำบลขึ้นสู่แผนจังหวัด
3. พัฒนาระบบสารสนเทศตำบลและยกระดับสู่ระบบสารสนเทศจังหวัด
4. การจัดการความรู้
- ถอดบทเรียน องค์ความรู้ ผลิตเป็นเอกสารบทเรียนการพัฒนา
- พัฒนาการวิจัยควบคู่กับขบวนงานพัฒนา
1. การพัฒนาระบบการบริหารจัดการ
2.ประชุมคณะ กรรมการบริหารโครงการ
3. ประชุมทีมยุทธศาสตร์จังหวัด
4. ปิดตัวโครงการและลงนามความร่วมมือระดับจังหวัดและระดับพื้นที่
5. อบรมเชิงปฏิบัติการแก่ผู้ประสานการเรียนรู้ประจำอำเภอ
6. วิเคราะห์ศักยภาพตนเองของพื้นที่เป้าหมาย (ก่อนการดำเนินงาน)
7. สัมมนาคณะทำงานระดับตำบล
8. สัมมนาทีมยุทธศาสตร์
9.ประชุมคณะทำงานระดับตำบล
10.ประชุมติดตามงานระดับกลุ่มตำบล
11. อบรมเชิงปฏิบัติ การการใช้ชุดเครื่องมือเพื่อสร้างระบบสารสนเทศระดับตำบล
12. จัดกระบวนการเรียนรู้จากข้อมูลบัญชีรับจ่ายครัวเรือนและข้อมูลที่ได้มีการจัดเก็บมาแล้วในช่วงการดำเนินงานโครงการความร่วมมือระยะแรก โดยจัดเวทีวิเคราะห์ข้อมูลที่เชื่อมโยงกับการทำกิจกรรมที่ชุมชนเห็นว่าเป็นประเด็นปัญหาหลักหรือประเด็นร่วม (Common Issue)
13. จัดเก็บข้อมูลอื่นที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้และขับเคลื่อนงานตามประเด็นปัญหาหลักที่ชุมชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพื่อใช้ข้อมูลดังกล่าวไปหนุนการเรียนรู้และวางแผนการตัดสินใจของชุมชน
14. ขับเคลื่อนงานตามประเด็นปัญหาหลักที่ชุมชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ
15. จัดกระบวนการเรียนรู้จากข้อมูลที่จำเป็นและได้มีการจัดเก็บเพิ่มเติม
16. สนับสนุนการจัดเก็บบัญชีครัวเรือนโดยการทำงานร่วมกับหน่วยงาน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองท้องถิ่น อาทิ กรมการพัฒนาชุมชน กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ธกส. คณะกรรมการหมู่บ้าน อบต./เทศบาล/อบจ. ทั้งนี้ จะใช้การระดมทรัพยากรจากในพื้นที่เป็นหลัก
17. จัดเวทีเรียนรู้จากบัญชีครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง
18. พัฒนาระบบข้อมูลเพื่อหนุนให้ อปท. สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่จัดเก็บมาแล้วได้อย่างเป็นระบบ
19. จัดเวทีการเรียนรู้ระดับอำเภอเพื่อบูรณาการแผนระดับอำเภอรองรับการจัดทำแผนจังหวัด ตามแนวของกฎหมายว่าด้วยการตั้งงบประมาณระดับจังหวัด
20. ติดตามและหนุนเสริมการเรียนรู้ที่จำเป็นต่อการช่วยให้ชุมชนมีวิธีคิด มุมมอง และข้อมูลสำหรับการบริหารจัดการโครงการ/จัดการพื้นที่ของตนเองได้ โดยชุมชนอาจเลือกโครงการในแผนชุมชน จำนวนไม่เกิน 1-2 โครงการต่อตำบลที่จะให้ทีมจังหวัดเข้าไปหนุนเสริม
21. วิเคราะห์ศักยภาพตนเองของพื้นที่เป้าหมาย (ระหว่างการดำเนินงาน)
22. การค้นหาพื้นที่ต้นแบบ
23. วิเคราะห์ศักยภาพตนเองของพื้นที่เป้าหมาย 3,343,000 บาท (หลังการดำเนินงาน)
24. การสื่อสารสาธารณะ
25. การจัดเวทีระดับจังหวัดเพื่อนำเสนอผลการดำเนินงาน และ สร้างข้อเสนอสาธารณะ
26.สัมมนาสรุปบทเรียนการทำงาน
27. การจัดทำรายงานความ ก้าวหน้าและรายงานสรุปโครงการ
1. ขอบเขตพื้นที่
จำนวน 60 ตำบล ประกอบด้วย
นาทราย/กำแพงเซา โพธิ์เสด็จ /บางจาก ปากพูน / ท่าเรือ ท่าซัก พรหมโลก อินคีรี /ทอนหงส์นาเรียง คลองน้อย ป่าระกำ / หูล่องเชียรใหญ่ ไสหมาก ท้องลำเจียก การะเกด/ แม่เจ้าอยู่หัว / บ้านราม ควนชะลิก /เคร็ง วังอ่าง / ขอนหาด นางหลง/เกาะขันธ์ ชะอวด/สวนหลวง นาพรุ /ช้างซ้าย
นาหมอบุญ/หินตกลานสกา / ท่าดี ขุนทะเล/ควนกรด หนองหงส์/กะปาง ทุ่งสง/บ้านนิคม บ้านลำนาว/ช้างกลาง / สวนขัน/บางรูป/นากะชะ นาแว /ไสหร้า นาเขลียง/ยางล้อม ถ้ำพรรณรา/ ดุสิตควนทอง/เสาเภา /สี่ขีด/กรุงชิง /ท่าศาลา / โมคลาน ไทยบุรี/ ตลิ่งชัน ดอนตะโก
2. 2. ขอบเขตเนื้อหา
ประกอบด้วยประ เด็นยุทธศาสตร์ที่ได้จากแผนแม่บทชมชุนมาเป็นเนื้อ หาขับเคลื่อน ดังนี้
1. การบริหารจัด การ และเชื่อมโยง
2. ความมั่นคงและสุขภาวะของชุมชน
3. เศรษฐกิจและการแก้ปัญหาความยากจน
4.การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
5. ประเพณี วัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นและการท่องเที่ยว
1. คณะกรรมการบริหารโครงการ จำนวน 51 คน
มีบทบาท กำกับ ติดตาม การดำเนินงานของคณะทำงานโครงการฯให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ของทุกภาคส่วน
2. ทีมยุทธศาสตร์จังหวัด จำนวน 15 คนมีหน้าที่ ดังนี้
2.1 ด้านประสานงาน บริหาร จัดการ โครง การฯตามแผนงาน/แผนงบประมาณ และดำเนิน งานตามนโยบายของคณะกรรมการบริหารโครงการฯ
2.2 ด้านวิชาการ
2.3 ด้านติดตามสนับ สนุนและยกระดับความรู้
3.ผู้ประสานงานจังหวัด
มีหน้าที่ สื่อสารข้อมูล ประสานงานระหว่างภาคีการพัฒนาส่วน กลางกับคณะกรรมการบริหารโครงการฯ และคณะทำงานโครงการฯ
4. ผู้ประสานการเรียนรู้ประจำอำเภอ
ประสานงานกับ อบต.ในเขตพื้นที่เพื่อเชื่อมโยงการสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้และการดำเนินงานของโครงการฯในพื้นที่กลุ่มตำบล
ระยะเวลาดำเนินงาน
18 เดือน (มีนาคม 2552 – สิงหาคม 2553)
ภาคีการพัฒนา
- วิชาการ
- ภาคประชาชน
- ภาคธุรกิจ
- ส่วนราชการ
- ภาคีส่วนกลาง
รายละเอียดงบประมาณ
- หมวดค่าตอบแทน 468,000 บาท
- หมวดค่าใช้สอย ประกอบด้วย การบริหารจัดการ /การจัดประชุม/การพัฒนาบุคลากร/สนับสนุนการ เรียนรู้และกระบวนการเคลื่อนไหวระดับพื้นที่/การพัฒนาระบบสารสนเทศตำบล/การจัดการความรู้/การสื่อสารสาธารณะ รวมค่าใช้สอย 3,343,000 บาท
แหล่งงบประมาณ
สรุปที่มาของแหล่งงบประมาณและจำนวนงบประมาณ
แหล่งงบประมาณ
จำนวน(บาท)
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
3,595,000
ที่ทำการปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช
2,950,000
องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช
1,460,000
องค์การบริหารส่วนตำบลเป้าหมาย
9,120,000
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)
9,301,000
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
3,000,000
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
1,600,000
กองทุนสวัสดิการสังคม
4,200,000
รวม
35,226,000
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. เกิดการนำแผนแม่บทชุมชนระดับต่าง ๆ และประเด็นยุทธศาสตร์ไปสู่การ
ปฏิบัติ ด้วยความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ บทฐานข้อมูล / ความรู้
2. เกิดระบบสารสนเทศตำบล เพื่อสนับสนุนงานพัฒนาในระดับพื้นที่
3. เกิดกลไกความร่วมมือที่มีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นและขยายวงกว้างขึ้น
ความก้าวหน้าระดับจังหวัด
1. มีคณะกรรมการบริหารระดับจังหวัด 51 คน
2. คณะยุทธศาสตร์จังหวัด 15 คน
3. ทีมวิชาการ จำนวน 8 คน
4. คณะทำงานตำบล จำนวน 300 คน
5. ผู้ประสานการเรียนรู้และกองเลขา 15 คน
6. เกิดศูนย์บริการข้อมูลท้องถิ่นระดับจังหวัด 1 ศูนย์
ปัญหาอุปสรรค
1. ผู้ปฏิบัติงานโครงการขาดความรู้ความเข้าใจ
2. คณะผู้บริหารโครงการไม่ได้ทำความเข้าใจกับภาคีพัฒนา
3. ผู้บริหารระดับสูงของภาคีพัฒนาให้ความสนใจโครงการน้อย
ข้อแสนอแนะ
1. คณะกรรมการบริหารควรเร่งทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติงาน
2. คณะผู้บริหารโครงการควรสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับภาคีพัฒนา
3. คณะกรรมการบริหารควรสร้างความเข้าใจและขอรับการสนับสนุนและความร่วมมือจากผู้บริหารระดับสูงของ ภาคีพัฒนา