จาก พ.ศ. 2535 ที่มีการขยับตัวของกลุ่มคนในภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ที่เปิดตัวออกสู่สาธารณะและเข้ามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคมมากขึ้น เช่น เหตุการณ์ในเดือนพฤษภาคม ปี 35 หรือขบวนการ สสร. ฉบับที่ 16 เป็นต้น
การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ภาคประชาสังคมหลัง พ.ศ. 2540 จากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 16 พ.ศ. 2540 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ทำให้ทุกพื้นที่ ทุกท้องถิ่นของประเทศเกิดกิจกรรม เกิดโครงการ ที่ภาคประชาชน/ชุมชนเป็นตัวตั้งเข้ามีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของ โดยมีอีกสี่ภาคส่วนในสังคม ซึ่งได้แก่ ภาคราชการ ภาควิชาการ ภาคเอกชน เอ็นจีโอ และภาคท้องถิ่น คอยช่วยเหลือสนับสนุนเอื้ออำนวยความสะดวก รวมเป็นพหุภาคี
ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการขับเคลื่อนงานของภาคประชาชนอยู่ในพื้นที่อย่างหลากหลาย
มีรูปธรรมที่ชัดเจน และมีกิจกรรมที่เกิดจากการทำงาน และมีคนทำงานอย่างหลากหลาย เชื่อมร้อยกันเป็นคณะทำงานในรูปแบบต่างๆหลายระดับทั้งนี้จึงเกิดการรวมตัวกันในการขับเคลื่อนของขบวนองค์กรชุมชนระดับจังหวัด โดยสร้างความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เช่น องค์กรทางศาสนา สื่อชุมชนท้องถิ่น ภาคีหน่วยงานราชการ ภาคีประชาสังคม สถาบันวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้าน และเครือข่ายองค์กรชุมชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รวมตัวกันเป็น “กลไกการพัฒนาระดับจังหวัด” โดยมีขบวนชุมชนเป็นแกนกลางและยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง ได้เริ่มจัดรูปขบวนกลไกมาตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2549 โดยในช่วงแรกมีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) และภาคีหน่วยราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นองค์กรพี่เลี้ยง จนกระทั่งในเดือนธันวาคม 2549 – กุมพาพันธ์ 2550 ภาคีการพัฒนาภาคราชการ ภาคีการพัฒนาจากส่วนกลาง เข้ามาร่วมในขบวนการอย่างจริงจังมากขึ้นจนเกิด “กลไกการพัฒนาจังหวัดไปตามธรรมชาติ” แบบบูรณาการ โดยมี นายวิชม ทองสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้การสนับสนุนในการเคลื่อนงานอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของการจัดการความรู้ (KM) ส่งเสริมและสนับสนุนตัวแทนจากส่วนราชการให้มีบทบาทในการทำงานพัฒนาที่มีองค์กรชุมชนเป็นศูนย์กลางทำให้เกิดการขยายผลอย่างกว้างขวางในจังหวัด รวมไปถึงการให้คำปรึกษาของกระบวนการงานพัฒนามาโดยตลอด
จากบทเรียนการทำงานพัฒนาที่ผ่านมาของขบวนองค์กรชุมชน จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาในระยะต่อไป 5 ด้าน เพื่อเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่จะช่วยให้ชุมชนยกระดับวิธีคิด วิธีวิเคราะห์ กระบวนทัศน์ ด้วยกลไกเชิงพื้นที่ เชิงประเด็น สร้างเครื่องมือในการแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ สร้างกลไกความร่วมมือเพื่อบริหารจัดการงานงานพัฒนาชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีองค์ประกอบของภาคีที่หลากหลาย ที่เน้นภารกิจหนุนเสริมเพื่อพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพของงานพัฒนาในระดับพื้นที่และระดับจังหวัด สร้างกระบวนการเรียนรู้ที่สัมพันธ์กับการจัดการทรัพยากร ผลผลิต มีการแลกเปลี่ยนและพึ่งพากันในรูปขององค์กรชุมชนและเครือข่าย พัฒนาการจัดการทรัพยากรผลผลิต ทุนของชุมชน ฟื้นฟู พัฒนาคุณค่าความสัมพันธ์แบบพึ่งพากันในสังคม รวมทั้งระบบเศรษฐกิจ